การทูตจวก สื่อเละ

การทูตจวก สื่อเละ

กรมพิธีการทูตจวกสื่อยับ!ชี้รถทูตมีเอกสิทธิ์ในการเดินรถ




กรมพิธีการทูต ชี้รถทูตทุกคันมีเอกสิทธิ์ในการเดินรถ และมีเอกสิทธิ์คุ้มครองในการเปิดเผยข้อมูล ติงสื่อทำหน้าที่ไม่เหมาะสมอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ด้านนักข่าวแจงแค่ออกมาขอโทษคนไทยพร้อมให้อภัย
วันจันทร์ 18 สิงหาคม 2557 เวลา 14:02 น.
กรณีการแชร์คลิปวิดิโอเผยพฤติกรรมผู้ขับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลสีดำ ยี่ห้อแลนด์โรเวอร์ ทะเบียนสีฟ้า (ทะเบียนองค์กร) อ11-0060 ที่ขับรถย้อนและบีบแตรไล่รถยนต์คันอื่นที่วิ่งมาอย่างถูกกฎหมายตามกฎจราจรให้ถอยหลัง จนกลายเป็นเรื่องวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมถึงความเหมาะสม เมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยยังไม่มีหน่วยงานใดออกมาขอโทษ หรือชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น มีเพียงบทสัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.เฉลิมพล เกรียท่าทราย สว.จร.สน.พญาไท ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่รับผิดชอบว่า ไม่ว่าคนขับเป็นคนไทย หรือชาวต่างชาติก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมายไทย เพราะพื้นที่เกิดเหตุอยู่ในประเทศไทย ต้องทำตามกฎหมาย พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ซึ่งมีโทษปรับตั้งแต่ 200-500 บาท และแม้จะเป็นรถที่มีทะเบียนองค์ระหว่างประเทศ หรือเป็นรถฑูตก็ไม่ได้รับสิทธิ์การคุ้มครอง เว้นแต่จะมีรถนำขบวนซึ่งมีสิทธิยกเว้นในเส้นทางอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานที่แน่ชัด แต่หากตรวจสอบชัดเจนเมื่อไหร่จะดำเนินการตามกฏหมายทันที ตามที่เดลินิวส์ออนไลน์เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ทีมข่าวเดลินิวส์ออนไลน์ได้ติดต่อไปยังกรมพิธีการทูต กระทรวงการต่างประเทศ โดยเจ้าหน้าที่ปลายสายให้คำตอบว่า "ทางกระทรวงการต่างประเทศ และทูตประเทศต่าง ๆ ได้เห็นคลิปดังกล่าวแล้ว เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งมาให้ ขออธิบายว่า ปกติรถทูตจะได้รับสิทธิ์พิเศษในการเดินรถอยู่แล้ว และขอไม่ให้รายละเอียดว่ารถคันดังกล่าวเป็นของหน่วยงานใด เนื่องจากสถานทูตมีเอกสิทธิ์คุ้มครอง และจะไม่ตอบคำถามใด ๆ ต่อผู้สื่อข่าว ต้องรอเรียนปรึกษาผู้ใหญ่ก่อน"
เจ้าหน้าที่สาวกล่าวอย่างหัวเสียต่อว่า "ทั้งนี้ขอติงสื่อมวลชนว่าการลงข่าวดังกล่าว เป็นการกระทำที่กระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สื่อมวลชนจะกระทำการใดควรพิจาณาไม่ใช่เล่นข่าวตามใจตน" เมื่อผู้สื่อข่าวทวงถามถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนว่าการกระทำดังกล่าวไม่ถูกต้องตามกฎหมายไทยจะปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไป โดยไม่มีใครออกมารับผิดชอบหรือชี้แจงข้อเท็จจริงใช่หรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่ท่านเดิมตอบว่า "อย่ามาหลอกถาม เพราะดิฉันเคยทำงานสายสื่อสารมวลชนมาก่อน ทราบดีว่าพวกคุณต้องการอะไร หากคุณต้องการทราบข้อมูล ก็ต้องรอให้ทางเราสะดวกเพราะเราก็มีภาระกิจอื่นต้องทำ ที่สำคัญหากสื่อต้องการข้อมูลควรไปสอบถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะปกติเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถดึงข้อมูลทะเบียนรถได้อยู่แล้ว"
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้แนะนำว่าการกระทำที่ดีที่สุดไม่ใช่ปล่อยให้เรื่องเงียบหายไปเฉย ๆ หน่วยงานหรือคนขับรถคันดังกล่าวน่าจะออกมาแสดงความรับผิดชอบขอโทษคนไทย เชื่อว่าทุกคนพร้อมให้อภัยกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว.

ที่มา:http://www.dailynews.co.th/Content/crime/260232



mas andes

Author :

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetuer adipiscing elit, sed diam nonummy nibh euismod tincidunt ut laoreet dolore magna aliquam erat volutpat. Ut wisi enim ad minim veniam, quis nostrud exerci tation ullamcorper suscipit. Terimakasih atas kunjungannya brother yang baru saja membaca artikel berjudul การทูตจวก สื่อเละ .
Share Artikel

Artikel Terkait